เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ topping.truemoveh.com


เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ topping.truemoveh.com (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “เงื่อนไขการใช้งาน”) นี้เป็นข้อตกลงระหว่าง บริษัท ทรู มันนี่ จํากัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 89 อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ชั้น 18-19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) ฝ่ายหนึ่ง กับ ผู้ใช้งานเว็บไซต์ topping.truemoveh.com (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ผู้ใช้งาน”) อีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อใช้งานเว็บไซต์ topping.truemoveh.com (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “การใช้งาน”) โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบรายละเอียดการใช้งานแพ็กเกจเสริมทรูมูฟ เอช รวมถึงทำธุรกรรมตามที่บริษัทกำหนดผ่านเว็บไซต์ topping.truemoveh.com (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “เว็บไซต์”) ทั้งนี้ ผู้ใช้งานมีหน้าที่ทําความเข้าใจเงื่อนไขการใช้งานนี้อย่างละเอียดก่อนการใช้งาน และคอยตรวจสอบเงื่อนไขการใช้งานนี้อย่างสม่ำเสมอ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งาน ผู้ใช้งานสามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านช่องทางศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) 1240 หรือช่องทางอื่นตามที่บริษัทกำหนด 


1. ข้อกําหนดทั่วไป

1.1  ผู้ใช้งานตกลงที่จะปฏิบัติและผูกพันตามเงื่อนไขการใช้งาน โดยบริษัทอาจแก้ไข หรือเพิ่มเติมเงื่อนไขการใช้งานได้ ไม่ว่าในเวลาใด โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบล่วงหน้า เว้นแต่เป็นการแก้ไขที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานอย่างมีนัยสำคัญ และการที่ผู้ใช้งานยอมรับและใช้งานต่อไปภายหลังจากที่มีการแก้ไข หรือเพิ่มเติมดังกล่าว ย่อมถือเป็นการยอมรับการแก้ไข หรือเพิ่มเติมในแต่ละครั้ง
1.2 เว้นแต่จะได้มีการแจ้ง หรือกําหนดไว้เป็นอย่างอื่น คุณลักษณะใหม่ ๆ ที่ได้แก้ไข เพิ่มเติม หรือปรับปรุงให้ถือว่าอยู่ภายใต้เงื่อนไขการใช้งานฉบับนี้ทั้งสิ้น
1.3  บริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงหรือยกเลิกการใช้งาน หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราว หรือตลอดไปได้ตลอดเวลา โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบล่วงหน้า

2. การใช้งาน

2.1 การใช้งานทั่วไป

2.1 ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบรายละเอียดเงื่อนไขการใช้งานของแพ็กเกจเสริมทรูมูฟ เอช ทั้งแบบเติมเงินและรายเดือน (“แพ็กเกจเสริม”) รวมถึงรายการส่งเสริมการขายต่างๆ ได้ผ่านเว็บไซต์ https://topping.truemoveh.com/
2.2 เมื่อผู้ใช้งานเลือกแพ็กเกจเสริมที่ต้องการซื้อแล้ว ผู้ใช้งานต้องทำรายการเพื่อยืนยันและเลือกช่องทางการชำระเงิน ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ใช้งานไม่ได้เข้าใช้งานผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทรูมูฟ เอช ผู้ใช้งานต้องกรอกหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ลงทะเบียนการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่ายทรูมูฟ เอช เพื่อรับรหัสผ่านเข้าใช้งานชั่วคราว ก่อนการซื้อแพ็กเกจเสริมแต่ละครั้ง โดยรหัสผ่านมีอายุ 15 (สิบห้า) นาที นับแต่ผู้ใช้งานขอรับรหัสผ่านชั่วคราวครั้งนั้น ๆ
2.3 ผู้ใช้งานจะต้องเก็บรักษารหัสผ่านชั่วคราวที่ได้รับแต่ละครั้ง และข้อมูลที่ใช้ในการสมัครใช้งานไว้เป็นความลับเฉพาะตัวของผู้ใช้งานเท่านั้น และไม่เปิดเผย หรือกระทำการใด ๆ ที่อาจทำให้ผู้อื่นทราบรหัสผ่าน และ/หรือข้อมูลดังกล่าว ผู้ใช้งานยอมรับว่าหากมีการทํารายการใด ๆ โดยใช้รหัสผ่านชั่วคราวที่ผู้ใช้งานได้รับ ให้ถือว่าเป็นการกระทําโดยตัวของผู้ใช้งานเองทุกประการ โดยบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทํารายการใด ๆ ภายใต้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ทำรายการดังกล่าว
2.4 ในกรณีผู้ใช้งานใช้รหัสผ่านชั่วคราวซื้อแพ็กเกจเสริมที่ต้องการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ใช้งานยอมรับว่าไม่สามารถยกเลิก เพิกถอน เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขการทำรายการดังกล่าวได้ และผู้ใช้งานต้องผูกพันตามรายการดังกล่าวทุกประการ
2.5 ผู้ใช้งานสามารถเลือกช่องทางการชำระค่าแพ็กเกจเสริมได้ ดังต่อไปนี้
2.5.1 ผู้ใช้งานสามารถสมัครบัญชี TrueMoney Wallet เพื่อนำเงินอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท และ/หรือเงินคืนจากกระเป๋าทรูมูฟ เอช ชำระค่าแพ็คเกจเสริมที่ต้องการซื้อ โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบยอดเงินในบัญชี TrueMoney Wallet และยอดเงินคืนจากกระเป๋าทรูมูฟ เอช ได้ผ่านเว็บไซต์ ทั้งนี้ ในบางกรณีผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet
2.5.2 ผู้ใช้งานสามารถชำระค่าแพ็กเกจเสริม โดยหักจากเงินในซิมทรูมูฟ เอช (AirTime) ที่ได้ลงทะเบียนเข้าใช้งานในการทำรายการครั้งนั้น ๆ
2.6  กรณีที่บริษัทตรวจพบว่าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทและ/หรือเงินในช่องทางที่ผู้ใช้งานประสงค์ใช้เพื่อชำระค่าแพ็กเกจเสริม มีไม่เพียงพอสําหรับผู้ใช้งานในครั้งใด บริษัทมีสิทธิระงับการการทำรายการของผู้ใช้งานในครั้งนั้นได้

2.2 บริการ Recurring Payment  (Buy TrueMove H Topping) 

          คือ “บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ” ที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทรูมูฟ เอชทั้งแบบรายเดือนและแบบเติมเงิน ที่มีบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ทและใช้บริการทรูมันนี่ วอลเล็ท ผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://topping.truemoveh.com โดยระบบจะทำการต่ออายุแพ็กเกจเสริมทรูมูฟ เอช ที่มีอายุการใช้งานแบบรายครั้ง ให้โดยอัตโนมัติผ่านการหักเงินผ่านช่องทางการชำระเงินที่ผู้ใช้เลือก เมื่อแพ็กเกจเสริมเเรกหมดอายุการใช้งาน 
รายละเอียดแพ็กเกจเสริมที่ร่วม “บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ” มีหลากหลายเช่นเดียวกับการสมัครแพ็กเกจเสริมแบบรายครั้ง เช่น เน็ตไม่จำกัดความเร็ว,เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีดที่ความเร็ว 2Mbps, 6Mbps, 10Mbps หรือเน็ตจำกัดปริมาณการใช้งานที่ 30GB, 60GB, 75GB และระยะเวลาในการต่ออายุอัตโนมัติก็จะแตกต่างกันไป ตามอายุการใช้งานของแพ็กเกจที่ลูกค้าทำรายการ เช่น แบบต่ออายุทุกๆ 7 วัน หรือทุกๆ 30 วัน นอกจากนี้จำนวนรอบในการต่ออายุอัตโนมัติยังแตกต่างกันไป เช่น แบบต่ออายุอัตโนมัติ 6 รอบ (ครั้ง) 12 รอบ (ครั้ง) เป็นต้น

          โดย “บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ” ผ่านบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท มีเงื่อนไขการใช้บริการทั้งหมด 4 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการสมัครแพ็กเกจเสริมนั้นๆ ดังนี้
แบบที่ 1 : ระบบไม่จำกัดจำนวนรอบในการต่ออายุ (ชำระค่าบริการ) แพ็กเกจเสริมอัตโนมัติผ่านระบบ Recurring payment  จนกว่าจะยกเลิก ซึ่งสามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อ โดยไม่มีเงื่อนไข
แบบที่ 2 : ระบบไม่จำกัดจำนวนรอบในการต่ออายุ (ชำระค่าบริการ) แพ็กเกจเสริมอัตโนมัติผ่านระบบ Recurring payment จนกว่าจะยกเลิก แต่จะสามารถยกเลิกบริการได้ต่อเมื่อครบตามจำนวนรอบบิลที่ระบุไว้ในเงื่อนไขของแต่ละแพ็กเกจ
แบบที่ 3 : ระบบจำกัดจำนวนรอบในการต่ออายุ (ชำระค่าบริการ) แพ็กเกจเสริมอัตโนมัติผ่านระบบ Recurring payment โดยเมื่อครบจำนวนรอบที่ระบุไว้ในเงื่อนไข ระบบจะหยุดบริการต่ออายุอัตโนมัติ แต่ระหว่างนั้นลูกค้าสามารถยกเลิกบริการเมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่มีเงื่อนไข
แบบที่ 4 : ระบบจำกัดจำนวนรอบในการต่ออายุ (ชำระค่าบริการ) แพ็กเกจเสริมอัตโนมัติผ่านระบบ Recurring payment และกำหนดเงื่อนไขในการยกเลิกบริการได้ต่อเมื่อครบตามจำนวนรอบบิลที่ระบุไว้ในเงื่อนไขของแต่ละแพ็กเกจ

ข้อกำหนดและเงื่อนไขของ "บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ"
1. แพ็กเกจเสริมนี้ร่วมรายการ "บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ"
2. บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัตินี้ ให้บริการ โดยบริษัท ทรู มันนี่ จำกัด (“บริษัท”)
3. เมื่อท่านตกลงใช้ "บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ" จะถือว่าท่านได้ยอมรับในเงื่อนไขการให้บริการที่ได้ระบุไว้ ในรายละเอียดแพ็กเกจที่ท่านทำรายการ รวมทั้งในข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ด้วย
4. เมื่อท่านตกลงใช้ "บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ" ระบบจะทำการหักเงินผ่านช่องทางการชำระเงินที่ท่านเลือกในบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ทของท่านโดยอัตโนมัติเพื่อชำระค่าแพ็กเกจเสริมครั้งถัดไป หลังจากแพ็กเกจเสริมล่าสุดของท่านหมดอายุ
5. ระบบจะทำรายการหักเงินผ่านช่องทางการชำระเงินที่ท่านเลือกในบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ทของท่านโดยอัตโนมัติ ต่อเมื่อท่านมีเงินในช่องทางการชำระเงินที่ท่านเลือก เช่น บัญชีธนาคาร, บัญชี paynext ,บัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท หรือ เงินคืนจากทรูมูฟ เอช หรือ คูปองส่วนลดจากทรูมันนี่ วอลเล็ท เพียงพอตามมูลค่าของแพ็กเกจเสริมเท่านั้น โดยระบบจะทำการหักตามลำดับ ดังนี้ 
  • เงินคืนจากทรูมูฟ เอช (ในกรณีที่ลูกค้ามีเงินคืนจากทรูมูฟ เอช เพียงพอกับมูลค่าแพ็กเกจ)
  • คูปองจากทรูมันนี่ วอลเล็ท (ในกรณีที่ลูกค้ามีคูปองจากทรูมันนี่ วอลเล็ทเพียงพอกับมูลค่าแพ็กเกจ)
  • เงินคืนจากทรูมูฟ เอช ร่วมกับเงินในบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท 
  • คูปองทรูมันนี่ วอลเล็ท ร่วมกับเงินในบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท
  • ช่องทางการชำระหลักที่ท่านเลือกไว้ เช่น บัญชีธนาคาร ,เงินในบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท ,บัญชี paynext
6. เงินคืนจากทรูมูฟ เอช หรือ คูปองส่วนลดจากทรูมันนี่ วอลเล็ท ไม่สามารถใช้ได้กับช่องทางการชำระเงินอื่นของทรูมันนี่ ต่อไปนี้
  • ช่องทางชำระผ่านบัญชีธนาคาร
  • ช่องทางชำระเงินด้วย Paynext 
7. เมื่อระบบทำการหักเงินผ่านช่องทางการชำระเงินที่ท่านเลือกในบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ทของท่านแล้ว ท่านจะไม่สามารถยกเลิกการซื้อแพ็กเกจเสริมดังกล่าวได้ นอกเสียจากจะครบตามจำนวนรอบบิลที่ระบุไว้ในเงื่อนไขของแพ็กเกจ (บางแพ็กเกจ) ท่านจึงจะสามารถทำรายการยกเลิก “บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ” ได้
8. ท่านจะได้รับแพ็กเกจเสริมใหม่ทันที นับตั้งแต่เวลาที่ระบบหักเงินผ่านช่องทางการชำระเงินที่ท่านเลือกในบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ทของท่านแล้ว เว้นแต่เกิดเหตุขัดข้อง หรือเหตุอื่นอันอยู่เหนือการควบคุมของบริษัท โดยบริษัทจะรีบดำเนินการแก้ไขโดยเร็วที่สุด 
9. ในกรณีที่เงินในช่องทางการชำระเงินที่ท่านเลือกในบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท ของท่านไม่เพียงพอกับมูลค่าของแพ็กเกจเสริม ทำให้ระบบไม่สามารถหักเงินได้ ระบบจะดำเนินการหักเงินอีกครั้งหนึ่งในวันถัดไป (ทั้งนี้ไม่เกิน 3 วัน) หากไม่สามารถหักเงินได้ภายในระยะเวลา 30 วัน ระบบจะยกเลิก “บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ” ทันที
10. ลูกค้าสามารถตรวจสอบรอบบิลของตนเอง ได้ที่หน้า https://topping.truemoveh.com/subscriptions
11. ท่านสามารถยกเลิก “บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ” ได้ด้วยตัวเองที่ https://topping.truemoveh.com/subscriptions หรือติดต่อ Call Center โทร.1240
12. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องจากการหักเงิน หรือไม่สามารถหักเงิน เพื่อชำระค่าแพ็กเกจเสริมที่ร่วมรายการ “บริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัติ” รวมถึงความเสียหายใดๆ อันเกิดขึ้นจากความล่าช้า เหตุขัดข้อง อันเกิดขึ้นจากเหตุใดๆ อันอยู่เหนือการควบคุมของบริษัททั้งสิ้น
13. การให้บริการแพ็กเกจเสริม เป็นการให้บริการโดยบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด
14. บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของบริการชำระค่าแพ็กเกจเสริมโดยระบบอัตโนมัตินี้ และ/หรือเงื่อนไขอื่นใด โดยจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า ในกรณีที่มีข้อโต้แย้งใดๆ เกิดขึ้น ให้คำตัดสินของบริษัทถือเป็นที่สิ้นสุด
15. สอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ Call Center โทร.1240


3. เงื่อนไขอื่นๆ

3.1  บริษัทไม่รับผิดชอบในความเสียหาย หรือความสูญหายที่เกิดกับการใช้งานอันเนื่องจากการที่โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์อื่นใดของผู้ใช้งานได้สูญหาย หรือถูกขโมย หรือผู้ใช้งานถูกหลอกลวง หรือจากเหตุสุดวิสัยอื่นใด โดยผู้ใช้งานต้องแจ้งความประสงค์ขอระงับการทำรายการด้วยตนเองผ่านช่องทางศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) 1240 หรือช่องทางอื่นตามที่บริษัทกำหนด
3.2  บริษัทไม่รับผิดชอบในความเสียหาย หรือความสูญหายใด ๆ ที่เกิดขึ้น อันเนื่องจาก Malware หรือ Computer Virus หรือจากการโจมตีทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใด บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์อื่นใดของผู้ใช้งานที่ใช้งาน
3.3  ความผิดพลาด และ/หรือ ความล่าช้าใดๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากระบบคอมพิวเตอร์ ระบบอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ ระบบอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานนี้ และ/หรือ สาเหตุอื่นใดลักษณะเดียวกันอันเกิดจากเหตุสุดวิสัย ผู้ใช้งานตกลงจะไม่ยกเอาเหตุขัดข้องดังกล่าวมาเป็นข้อเรียกร้องค่าเสียหายใดๆจากบริษัท
3.4  ผู้ใช้งานตกลงใช้งานภายใต้วัตถุประสงค์ที่ถูกต้องตามกฎหมายตามเงื่อนไขการใช้งานนี้เท่านั้น และตกลงผูกพันปฏิบัติตามและให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินการตามเงื่อนไขการการใช้งานฉบับนี้ ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและ/หรือที่จะมีขึ้นต่อไปในภายหน้าโดยเคร่งครัด
3.5 ผู้ใช้งานรับรองว่าผู้ใช้งานจะไม่ทำให้เว็บไซต์ หรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ต้องเสียหาย หรือจะไม่ทำให้เกิดการรบกวนการใช้งานเว็บไซต์ของบุคคลอื่นใด ไม่พยายามเข้าสู่เว็บไซต์ หรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ โดยปราศจากอำนาจไม่ว่าด้วยวิธีการเจาะระบบ (hacking) ขโมย สำเนา หรือทำลายข้อมูล หรือวิธีการอื่นใด หากเกิดความเสียหายใด ๆ ขึ้นจากการกระทำของผู้ใช้งานข้างต้นแก่บริษัท หรือบริษัทถูกเรียกร้องให้ต้องรับผิดใด ๆ จากการที่ผู้ใช้งานทําธุรกรรมทางการเงินผ่านเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวข้างต้น หรือจากการที่ผู้ใช้งานกระทำการใดอันเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ข้างต้น บริษัทมีสิทธิระงับหรือยกเลิกการใช้งานได้ทันที และผู้ใช้งานจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัททุกประการ ทั้งนี้ บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบในความเสียหายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น
3.6  ผู้ใช้งานสามารถสอบถามข้อมูลการใช้งาน และ/หรือแจ้งปัญหาในการใช้งานได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) 1240 หรือช่องทางอื่นใดตามที่บริษัทกำหนดไว้


4. ข้อมูลส่วนบุคคล

4.1  ผู้ใช้งานตกลงและยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียงข้อมูลพฤติกรรมการทำธุกรรม ข้อมูลทางการเงิน หรือข้อมูลใด ๆ ของผู้ใช้งานที่ได้ให้ไว้แก่บริษัท และ/หรือที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท และ/หรือที่บริษัทได้รับหรือเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นหรือบุคคลอื่นใดโดยถูกต้องตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “ข้อมูล”) โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งานเท่าที่จำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้ใช้งานได้รับบริการที่ดีจากบริษัท และรวมถึงเพื่อใช้ในการยืนยันตนในการทำธุรกรรมทางการเงินภายใต้การให้บริการ ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอก หรือเพื่อให้บริษัทสามารถติดต่อกับผู้ใช้งานได้ในกรณีที่จำเป็น และยินยอมให้บริษัทใช้, ส่ง, โอน, ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลให้แก่บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และ/หรือบริษัทในเครือของบริษัทดังกล่าวทั้งหมดข้างต้น (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “บริษัทในเครือธุรกิจ”) รวมถึงผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัท หน่วยงานราชการ ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง และ/หรือนิติบุคคล หรือบุคคลอื่นใด ๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญาหรือมีความสัมพันธ์ด้วย ทั้งภายใน และภายนอกประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม, ใช้, เปิดเผย, ประมวลผล, วิเคราะห์ข้อมูล, ยืนยัน/พิสูจน์ตัวตน และ/หรือปรับปรุงบริการ หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท หรือของบุคคลดังกล่าว, เพื่อปฎิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้งานเป็นคู่สัญญา, เพื่อดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้งานก่อนเข้าทำสัญญานั้น, เพื่อปฎิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลอื่นอันเป็นประโยชน์ของผู้ใช้งาน, เพื่อตรวจสอบรายการธุรกรรมที่อาจจะเกิดการทุจริต, เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎระเบียบของประเทศใด ๆ ที่ใช้บังคับกับบริษัท หรือบุคคลดังกล่าว โดยความยินยอมดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดให้มีอยู่ตลอดระยะเวลาที่ผู้ใช้งานยังคงมีบัญชีอยู่กับบริษัท บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บุคคลนอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น โดยไม่ได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากผู้ใช้งาน เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
4.2 ผู้ใช้งานยินยอมให้บริษัทและบริษัทในเครือธุรกิจ ส่งข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ใช้งานได้ เพื่อนำเสนอข่าวสาร, กิจกรรมทางการตลาด, รายการส่งเสริมการขาย, แคมเปญ หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้งานได้ และผู้ใช้งานรับทราบว่า ผู้ใช้งานสามารถบอกเลิก หรือปฏิเสธการรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวได้ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด
4.3  ผู้ใช้งานตกลงยินยอมให้บริษัทในเครือธุรกิจ รวมถึงธนาคาร และหน่วยงานราชการที่ครอบครองข้อมูลของผู้ใช้งาน เปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้งานซึ่งให้ไว้แก่บริษัทดังกล่าวกับบริษัท เพื่อตรวจสอบและยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน, เพื่อรับข้อมูลหรือข่าวสาร, เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดและการส่งเสริมการขาย, เพื่อการเสนอสิทธิประโยชน์ และ/หรือเสนอขายสินค้าหรือบริการใดๆ, เพื่อประโยชน์ในการให้บริการหรือการทำธุรกรรมทางการเงิน, เพื่อการสถิติ, วิเคราะห์, ศึกษาวิจัย หรือประเมินผลข้อมูล หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย
4.4 ผู้ใช้งานรับทราบว่า ในบางกรณีไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องตามกฎหมายก็ดี หรือเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งาน บริษัทมีความจำเป็นต้องแจ้งแก่ทางผู้ใช้งานในการขอข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อเข้าทำสัญญาตามคำขอของผู้ใช้งาน หรือเพื่อปฎิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลอื่นอันเป็นประโยชน์ของผู้ใช้งาน ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบถึงกรณีดังกล่าวเพื่อขอข้อมูลและความยินยอม และรวมถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากการที่ผู้ใช้งานปฏิเสธจะให้ความยินยอมในกรณีนั้นๆ ตามวิธีการที่บริษัทเห็นสมควร
4.5 ผู้ใช้งานรับทราบว่าในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็น เพื่อปฎิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้งานเป็นคู่สัญญา, เพื่อดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้งานก่อนเข้าทำสัญญานั้น, เพื่อปฎิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลอื่นอันเป็นประโยชน์ของผู้ใช้งาน, เพื่อตรวจสอบรายการธุรกรรมที่อาจจะเกิดการทุจริต, เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎระเบียบของประเทศใด ๆ ที่ใช้บังคับกับบริษัท หรือบุคคลดังกล่าว บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลของผู้ใช้งานไปยังต่างประเทศ และในกรณีที่ประเทศปลายทางไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ผู้ใช้งานยินยอมให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลของผู้ใช้งานไปยังประเทศปลายทางดังกล่าวได้
4.6 ผู้ใช้งานมีสิทธิดังต่อไปนี้
4.6.1 ขอเข้าถึงข้อมูลของตนเองซึ่งอยู่กับบริษัทและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตน หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
4.6.2 ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปโดยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ หรือใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวโดยวิธีอัตโนมัติ (ในกรณีที่บริษัทจัดทำ), หรือ ขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นตามที่กฎหมายกำหนด และรวมถึง ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่บริษัทส่งหรือโอนแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น (เว้นแต่ทางเทคนิคไม่สามารถที่จะทำได้)
4.6.3 คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนตามที่กฎหมายกำหนด
4.6.4 ขอให้บริษัทลบ หรือทำลาย ระงับการใช้ชั่วคราว หรือแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้อยู่ในรูปแบบข้อมูลที่ไม่สามารถรู้ตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้
4.6.5 ขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตน
4.6.6 ขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อมูลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้บริษัทมีสิทธิแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามความจริงใดๆ ที่ผู้ใช้งานใช้หรือแสดงแก่บริษัทเพื่อเข้าใช้งาน ภายหลังจากที่บริษัทได้รับข้อมูลที่ถูกต้องพร้อมหลักฐานสนับสนุน เงื่อนไขดังกล่าวนี้ถือเป็นดุลยพินิจของบริษัททั้งสิ้น
4.6.7 หากผู้ใช้งานประสงค์ที่จะยกเลิกการใช้งาน ผู้ใช้งานสามารถเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้แก่บริษัทได้โดยวิธีการตามที่บริษัทกำหนด การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ที่ผู้ใช้งานได้ให้ความยินยอมไปแล้ว อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานรับทราบว่าสิทธิดังกล่าวเป็นสิทธิเบื้องต้น ผู้ใช้งานจะใช้สิทธิดังกล่าวได้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว มีสิทธิตามกฎหมายที่จะปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวของผู้ใช้งาน
4.7 ในกรณีที่ผู้ใช้งานต้องการติดต่อสอบถาม หรือมีข้อร้องเรียนใดๆเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อบริษัทได้ทาง Call Center โทร 1240 หรือ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด เลขที่ 89 อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ชั้น 18-19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร